สูตรอาหาร และวิธีทำ ขนมจีบ

ขนมจีบ (Siu Mai Dumplings)

ส่วนผสม 

- แป้งเกี้ยว(แบบแผ่นบาง) 2 กิโลกรัม 
- เนื้อปู 300 กรัม 

- เนื้อหมูบดละเอียด 1,600 กรัม 

- มันหมูบด 600 กรัม 

- เห็ดหอมแช่น้ำหั่นเล็ก ๆ 200 กรัม 

- เกลือป่น 2 ช้อนชา 

- น้ำมันหอย 5 ช้อนโต๊ะ 

- น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ 

- พริกไทย 3 ช้อนโต๊ะ 

- น้ำมันงา 8 ช้อนโต๊ะ 

- แป้งมันหรือแป้งตั้งหมิ่น 12 ช้อนโต๊ะ 

- รสดี 3 ช้อนโต๊ะ 

- ไข่ขาว 4 ฟอง 

- ซีอิ้วขาว 4 ช้อนโต๊ะ 

- ต้นหอมซอย แครอทหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก (แต่งหน้า)

วิธีทำ เตรียมส่วนผสมทุกอย่างให้พร้อม

1. แผ่นเกี้ยวสำเร็จรูปนำมาตัดเป็นวงกลม

2. เตรียมส่วนผสมทุกอย่างให้พร้อม

3. ผสมส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน นวดให้เนียนเข้ากันดี และเหนียว

4. เตรียมผ้าขาวบางชุปน้ำไว้สำหรับเช็ดแผ่นแป้งเกี้ยว

แผ่นเกี้ยวที่ตัดไว้ นำมาเช็ดแป้งนวลที่แผ่นออกก่อนจะห่อไส้ มิเช่นนั้นขนมจีบจะแข็ง

5 ห่อขนมจีบ โดยนำเนื้อหมูประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ วางบนแผ่นแป้ง จากนั้นใช้นิ้วจีบให้รอบเต็มแผ่นแป้งเกี้ยว วางบนรังถึงที่รองใบตองไว้

ตักไส้ใส่ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ

จับจีบให้สวยงาม

6. เตรียมรังถึงสำหรับนึ่ง (รองใบตองไว้)

7. นึ่งให้สุก 12 นาที

ขนมจีบสุกแล้ว

8. เตรียมน้ำจิ้ม (ซอสเปรี้ยว)

ขนมจีบกุ้ง

ขนมจีบกุ้ง กุ้งแชบ๊วย 800 กรัม แป้งมัน 1/2 ถ้วย มันหมูแข็งสับละเอียด 1/4 ถ้วย ไข่ขาวของไข่เป็ด 1/2 ฟอง แป้งมันฮ่องกง 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/2 ช้อนชา น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ แผ่นเกี๊ยวขนาดกว้าง 2 1/2 นิ้ว ยาว 2 1/2 นิ้ว 1 ห่อ ไข่แดงของไข่เค็มดิบปั้นก้อนกลมเล็ก 2 ฟอง น้ำมันพืชสำหรับทาแผ่นรองนึ่ง ชิกโฉ่ วิธีทำ - ทำไส้กุ้งโดยล้างกุ้ง แกะเปลือก เด็ดหัวเด็ดหางผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก - ตวงให้ได้กุ้ง 2 ถ้วย แล้วเคล้ากับแป้งมัน พักไว้สักครู่ จากนั้นล้างแป้งออกให้หมด - ซับน้ำให้แห้งด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้มีดปังตอตบตัวกุ้งให้แบน ใส่ลงในอ่างผสม - ตามด้วยมันหมูแข็ง ไข่ขาว แป้งมันฮ่องกง ซีอิ๊วขาว เกลือ และพริกไทย - นวดทุกอย่างเข้าด้วยกัน เติมน้ำมันงา นวดต่อให้เหนียวโดยฟาดกับอ่างผสม - จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาใต้ช่องแช่แข็งจนส่วนผสมเย็นจัด - ทำแผ่นเกี๊ยวแต่ละแผ่นให้มีลักษณะค่อนข้างกลม โดยตัดมุมทั้ง 4 ออก - จากนั้นวางแผ่นเกี๊ยว 1 แผ่น ลงบนฝ่ามือซ้ายใช้นิ้วมือขวาค่อย ๆ ตักไส้กุ้ง 1 ช้อนโต๊ะ - ใส่ตรงกลาง แล้วงออุ้งมือข้างนั้น ใช้นิ้วมือขวาค่อย ๆ รวบจับแผ่นเกี๊ยวขึ้นให้เป็นจีบ - ปาดหน้าให้เรียบด้วยไม้พายเล็ก และแต่งตรงกลางด้วยไข่แดง 1 ก้อน - ทำเช่นนี้จนหมด จากนั้นใส่ลงในแข่งติ่มซำที่รองด้วยแผ่นรองนึ่งทาน้ำมัน เข่งละ 4 ชิ้น - ต้มน้ำในหม้อลังถึงด้วยไฟแรง พอเดือดจึงลดไฟ เหลือเพียงน้ำเดือดปุด ๆ ใส่เข่งขนมจีบปู - ลงในชั้นลังถึง ปิดฝา ยกวางบนหม้อลังถึง นึ่งนาน 5-7 นาที หรือจนสุก รับประทานกับชิกโฉ่

อาหารว่าง ขนมหวาน3

สูตรอาหารของหวาน : เต้าฮวยฟรุตสลัด

วันนี้เราก็มาทำของหวานทานคลายร้อนกันบ้างนะครับ นั่นก็คือ เต้าฮวยฟรุตสลัดนั่นเองครับ

ส่วนผสมเต้าฮวย

1. ผงวุ้น 2 ช้อนชา
2. น้ำ 3 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
4. วานิลลา 2 ช้อนชา

วิธีทำ

1. เคี่ยวผงวุ้นกับน้ำจนละลายและใส่น้ำตาลทรายเคี่ยวจนวุ้นข้น
2. ใส่นมข้นจืดและวานิลลา คนให้เข้ากัน ยกลงเทใส่ถ้วยทิ้งไว้ให้เย็น ใส่ผลไม้เชื่อม

ส่วนผสมผลไม้เชื่อม

1. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
2. น้ำ 1 ถ้วยตวง
3. ผลไม้ต่างๆ เช่น สับปะรด มะละกอ องุ่น เงาะ ลิ้นจี่ เป็นต้น

วิธีทำ

1. หั่นผลไม้เป็นลูกเต๋า พักไว้
2. ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำนำไปตั้งไฟ เคี่ยวพอน้ำเชื่อมข้น ใส่ผลไม้เชื่อมจนได้ที่ ตักขึ้น จึงใส่ผลไม้อย่างอื่นลงไป เมื่อเสร็จแล้วตักขึ้น ราดบนเต้าฮวย

เพียงเท่านี้ก็จะได้ของหวานรับประทานกันแล้วล่ะครับ

สูตรอาหาร : น้ำมะขามเครื่องเทศ

หวานเปรี้ยวชุ่มคอ แก้กระหาย และถ่ายท้องดี

มะขาม อุดมด้วยวิตามินซี และเอ ช่วยแก้กระหายน้ำเวลาร้อนจัดได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็เป็นยาระบายอ่อนๆ หากไม่อยากพึ่งยาระบายตามท้องตลาด ลองดื่มน้ำมะขามดู จะช่วยให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น ทำง่ายๆ และราคาไม่แพง ลองทำกันดูเลยครับ

ส่วนผสม

1. เนื้อมะขามเปียก 60 กรัม
2. น้ำร้อน 2 1/2 ถ้วย
3. น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. ปาปริก้า 1/4 ช้อนชา
6. ใบสะระแหน่ 5–10 ใบ
7. ยี่หร่า 1/2 ช้อนชา
8. ลูกผักชีป่นผสมกานพลูป่นปริมาณเล็กน้อย (ปลายมีดสะกิด)
9. น้ำแข็งทุบ

วิธีทำ

1. แช่เนื้อมะขามเปียกในน้ำร้อนนานประมาณ 15–20 นาที สวมถุงมือบีบและขยำเนื้อมะขามเป็นช่วงๆ กรองด้วยกระชอนใส่ถ้วย พักไว้จนเย็น
2. เทส่วนผสมในข้อ 1 ลงในโถปั่น ตามด้วยน้ำผึ้ง เกลือ ปาปริก้า ใบสะระแหน่ ยี่หร่า ลูกผักชีป่นและกานพลูป่น ปั่นพอละเอียดเข้ากัน กรองด้วยกระชอน
3. รินใส่แก้วน้ำแข็ง เสิร์ฟ

บทความจาก : บุปผา กิตติกุล

ขนมชั้น

หลังจากเรียนรู้เคล็ดลับของอาหารคาวมามากแล้ว วันนี้ผมขอเสนอเคล็ดลับเกี่ยวกับขนมหวานบ้างครับ นั่นก็คือ เคล็ดลับการทำขนมชั้น นั่นเองครับ

เวลาจะหยอดแป้ง เพื่อนๆ จะต้องคนแป้งให้ทั่วๆ ก่อนเสมอ ที่สำคัญคือ ควรจะใช้ถ้วยตวงให้เท่ากันทุกครั้งในการหยอดแป้งแต่ละชั้น ควรรอให้ชั้นหนึ่งสุกก่อนจึงค่อยหยอดแป้งชั้นต่อไป ถ้าแป้งชั้นแรกยังไม่สุกแล้วรีบหยอด แป้งจะละลายเป็นเนื้อเดียวกัน อย่าลืมใช้กระดาษปิดหน้าขนมชั้นก่อนจึงค่อยเปิดฝา เพราะถ้าไม่ปิดไว้ หน้าขนมจะมีไอน้ำหยดเกาะอยู่เต็มไปหมดครับ

สูตรอาหาร : บัวลอยน้ำขิง

ส่วนผสมบัวลอย แป้งข้าวเหนียว ตราหมีคู่ 2 ถ้วย น้ำเปล่าสำหรับนวดแป้ง 1 ถ้วย งาดำคั่วบดละเอียด 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมน้ำขิง ขิงแก่บุบพอแตก 1 แง่ง น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 5 ถ้วย

วิธีทำ 1. นำกระทะตั้งไฟ ใส่งาดำบดละเอียดและน้ำตาลทรายลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พอน้ำตาลละลายและงาเหนียวพอปั้นเป็นก้อนได้ยกลงจากไฟ พักไว้ 2. ปั้นส่วนผสมงาเป็นก้อนกลมขนาดพอคำ สำหรับเป็นไส้บัวลอย 3. ผสมแป้งข้าวเหนียว ตราหมีคู่ กับน้ำแล้วนวดให้เข้ากัน เนื้อแป้งเนียน ไม่ติดมือ 4. ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม คลึงให้แบน แล้วนำแป้งไปห่อไส้งาดำที่เตรียมไว้ 5. นำบัวลอยที่ปั้นเตรียมไว้ลงไปต้มในน้ำเดือด พอแป้งสุกบัวลอยจะลอยขึ้นมา ตักขึ้นพักไว้ 6. เตรียมน้ำขิง โดยการต้มน้ำกับขิงแก่ให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาวลงไป คนให้เข้ากัน รอจนน้ำตาลละลายหมด และน้ำขิงเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ 7. ตักบัวลอยที่ต้มแล้วใส่ลงในถ้วย เติมน้ำขิงลงไป รับประทานร้อนๆ หมาย เหตุ สามารถดัดแปลงเป็นบัวลอยแห้ง โดยการนำบัวลอยที่ต้มแล้วไปคลุกกับจมูกข้าว หรือถั่วลิสงคั่วบดหยาบ หรือดัดแปลงเป็นบัวลอยทอด โดยการนำบัวลอยที่ปั้นเตรียมไว้ลงไปทอดในน้ำมันจนเหลืองกรอบ ก็ได้

สูตรอาหาร : butter cake

ส่วนผสม แป้งเค้ก 300 กรัม น้ำตราลทรายป่น 350 กรัม เนยสด 300 กรัม นมสด 1/2 ถ้วย ไข่ไก่ 7 ฟอง ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ 1. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และ เกลือ เข้าด้วยกัน 2. นำเนยสดและน้ำตาลทรายป่นไปตีจนขึ้นฟู ใส่ไข่ไก่ลงไปตีครั้งละ 2 ฟอง ให้พอเข้ากันดี ก่อนใส่เพิ่มอีกครั้งละ 2 ฟอง จนหมด 3. ผสมส่วนของแป้งที่ร่อนไว้แล้วกับนมสด และ กลิ่นวานิลลา สลับกันไปมา 4. เทส่วนผสมใส่พิมพ์ ประมาณความสูง 3/4 ของพิมพ์ โดยเข้าอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที

** นมสด และ ไข่ไก่ ควรแช่ให้เย็นจัด เพื่อให้ส่วนผสมอยู่ตัว

บทความจาก : kajornsak.com

สูตรอาหาร : เจลลี่ผลไม้

ส่วนผสม 1. ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ 2. เจลลี่ผง (เจลาติน) 1/2 ช้อนโต๊ะ 3. น้ำ 500 กรัม 4. น้ำตาลทราย 300 กรัม 5. ผลไม้ชนิดต่าง ๆ 6. สีผสมอาหาร

วิธีทำ 1. ละลายผงวุ้นและเจลลี่ผง (เจลาติน) กับน้ำคนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟปานกลาง คนตลอดเวลาพอเดือด 2. ผลไม้หั่นเป็นชิ้นตามต้องการ จัดใส่พิมพ์ 3. แบ่งวุ้นที่ผสมแล้ว (ข้อ 1) ใส่สีตามชอบตักวุ้นใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ พักให้เย็น 4. แคะจากพิมพ์เข้าตู้เย็น แช่ให้เย็นก่อนนำเสิร์ฟ

หมายเหตุ ถ้าต้องการให้มีกลิ่นหอมให้ต้มน้ำกับผลไม้ก่อนหรืออาจใช้เป็นน้ำสมุนไพรไทยๆ ก็ได้ เช่น น้ำมะตูม น้ำขิง น้ำใบเตย หรือใช้สีจากธรรมชาติ เช่น สีม่วงจากดอกอัญชัน สีส้มจากน้ำแครอท สีเขียวจากใบเตย หรือชาเขียว

บทความจาก : kow-krua.com

สูตรอาหาร : กล้วยบวชชี

ส่วนผสม กล้วยน้ำว้า สุกพอดี 10 ลูก มะพร้าวขูด 1/2 ก.ก. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย กลือป่น 1 ช้อนชา

วิธีทำ 1.คั้นมะพร้าวกับน้ำ 2 1/2 ถ้วย ให้ได้หัวกะทิ 1/2 ถ้วย หางกะทิ 3 ถ้วย พักไว้ 2.ปอกกล้วย ผ่าครึ่งลูก แล้วตัดตามยาว ให้ได้ 1 ลูก 4 ชิ้น (ถ้ากล้วยฝาดให้ต้มกล้วยให้สุกก่อน แล้วตักขึ้น พักไว้) 3.ใส่กะทิลงในหม้อตั้งไฟกลางให้เดือด ใส่กล้วย ต้มจนกล้วยสุก ใส่น้ำตาล เกลือ พอน้ำตาลละลายหมด ใส่หัวกะทิ ปิดไฟ (ถ้าต้มกล้วยก่อน ให้ต้มกะทิกับน้ำตาล และเกลือจนเดือด แล้วค่อยใส่กล้วย) 4.ยกเสิร์ฟได้ทั้งร้อน และเย็น

ที่มาบทความ : zmeal.com

สูตรขนมหวาน : กล้วยไข่เชื่อม

ขนมอะไรเอ่ย ชื่อทำง่าย เวลาทำก็ทำง่าย ขนมนั้นก็คือ กล้วยไข่เชื่อม นั้นเอง ทุกคนก็รู้กันดีว่ากล้วยนั้นมีประโยชน์มากมายขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณของเราเต่งตึง ถ้าไงลองทำกล้วยเชื่อมทานกันดูนะครับ

ส่วนผสม 1. กล้วยไข่ 1 หวี 2. น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง 3. เกลือ 1/4 ช้อนชา 4. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ 5. น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง

วิธีทำ 1. เลือกกล้วยสุก สีเปลือกเขียวปนเหลือง (สีดอกกระดังงา) ตัดหัวท้ายพักไว้ให้ยางหมด 2. เตรียมน้ำเชื่อมใส่น้ำตาล เกลือและน้ำเปล่า ตั้งไฟปานกลางพอเดือด กรองให้สะอาด 3. ตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง หรี่ไฟให้อ่อนถึงปานกลาง ปอกกล้วยใส่ พอกล้วยสุกใส่น้ำมะนาว(ไม่ให้น้ำเชื่อมตกผลึกเป็นเกล็ด) พอกล้วยใสทั่วตักขึ้น

สูตรอาหาร : ฟรุทสลัด

วันนี้ ไปลองหาสูตรทำขนมหวานมาฝากกัน ค้นไปค้นมาไปก็ไปเจอ ฟรุทสลัด เลยตัดสินใจนี่หละทำง่าย อร่อยอีกต่างหาก แก้กระหาย แก้เหนื่อยได้ดีนักแล เอาไปลองทำกันรับลองไม่ผิดหวัง ส่วนผสม (สำหรับ 10 คน) 1. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง 2. น้ำสะอาด 3/4 ถ้วยตวง 3. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 4. น้ำเย็นจัด 3/4 ถ้วยตวง 5. น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง 6. เหล้ารัม หรือไวน์ 1/4 ถ้วยตวง 7. ผลไม้ตามฤดูกาลเท่าที่หาได้ เช่น สับปรด แห้ว กล้วย องุ่น แตงโม แตงไทย ส้ม มะละกอ ฝรั่ง ลูกชิด รวมๆกัน 5 ถ้วยตวง

วิธีทำ 1. ต้มน้ำตาลทรายกับน้ำให้เป็นน้ำเชื่อม 2. ใส่เกลือป่นลงไป แล้วรอสักพักให้น้ำเชื่อมเย็นลง 3. เติมน้ำเย็นจัดๆ น้ำมะนาว เหล้ารัม ผลไม้ที่เตรียมไว้(ขนาดพอคำ) ลงไป 4. แช่ตู้เย็นทิ้งไว้ให้เย็นตลอดเวลา พอจะรับประทานให้นำน้ำแข็งป่นมาใส่

เท่านี้หละครับง่ายๆนิดเดียว ทำกินตอนอากาศร้อนๆนี่ชื่นใจไม่หายเลย

สูตรอาหาร : พายสับปะรด

สำหรับ วันนี้ผมเอาสูตรการทำ พายสับปะรด มาฝากกันสำหรับขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก เหมาะสำหรับทำเป็นของฝากให้กับคนรู้จัก หากทำอร่อยจะเอาไปทำขายก็ไม่ว่ากันครับ เอาหละไม่พูดพร่ำทำเพลงละ เรามาลองดูวิธีทำกันดีกว่า

ส่วนผสม (ทำได้ 40 ชิ้น) 1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วยตวง 2. เนยสด 1/2 ถ้วยตวง 3. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 4. น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนชา

วิธีทำสับปะรดกวน 1. นำสับปะรดมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ 2. บีบน้ำออกให้หมด 3. นำสับปะรด 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา อบเชยขนาดยาว 1 นิ้ว 1 แท่ง เผาไฟนิดหน่อย พอให้ออกกลิ่น (ถ้าเป็นอบเชยป่นก็ใช้ 1/2 ช้อนชา) ลงไปกวนด้วย คนเป็นระยะจนเหนียวทิ้งไว้ให้เย็น

วิธีทำแป้งพาย 1. ร่อนแป้ง เกลือป่น และน้ำตาลไอซิ่ง 2 ครั้ง ใส่ภาชนะ 2. ใส่เนยสดโดยตัดเป็นแผ่นบางๆลงในแป้งที่ร่อนในขั้นตอนแรก 3. ค่อยๆพรมน้ำ พร้อมใช้มือตะล่อมแป้ง และเนยสดให้เข้ากัน 4. เมื่อนวดแป้งเข้ากันแล้ว ให้ห่อด้วยกระดาษฟลอย หรือถุงพลาสติก แช่ในตู้เย็น 15 นาที 5. นำแป้งออกจากตู้เย็น แล้วมาคลึงแผ่เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/4 นิ้ว 6. ตัดเป็นแผ่นแล้วใส่ลงพิมพ์ 7. ตักสัปรดกวนใส่ แล้วนำแป้งตัดเป็นเส้น ทาด้วยไข่แดงที่ตีพอแตก มาคาดทับ 8. เข้าเตาอบ ความร้อน 375 ฟาเรนไฮท์ หรือ 200 องศาเซลเซียส

เท่านี้หละครับวิธีทำ เห็นไหมไม่ยากเลยสักนิด คราวหน้าจะเอาสูตรอาหารอะไรมาฝาก คอยติดตามกันนะครับ

สูตรอาหาร : พายบลูเบอร์รี่

ส่วนผสม 1. บลูเบอร์รี่ 1 กระป๋อง 2. เนยสด 250 กรัม 3. แคร็คเกอร์(บด) หรือจะใช้เป็นโอรีโอ้ ก็ได้ 4 ถ้วย 4. ครีมชีส (สีขาว) 2 ก้อน 5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ 6. ครีมข้นชนิดธรรมดา 2 กระป๋อง

วิธีทำ 1. นำ Cracker บทดแล้วนำมาผสมกับเนยเคล้าให้เข้ากัน แบ่งเป็นสองส่วนเพราะ Blueberry 1 กระป๋องทำได้ 2 ถาด แผ่แป้งให้เต็มถาดกดให้เรียบ แล้วนำเข้าอบพอสุก นำออกมาทิ้งให้เย็น 2. Cream Cheese กับครีมข้นชนิดธรรมดา ตีให้เข้ากันช้าๆ ใส่น้ำมะนาว แล้วตีเข้ากันพอประมาณจนเข้ากันได้ดี 3. ใส่ Cream Cheese ที่ผสมดีแล้วใส่ลงในแป้งที่เย็นดีแล้ว ใช้ไม้พายเกลี่ยให้ทั่วแป้ง 4. ใส่ Blueberrry แล้วนำเข้าตู้เย็น เวลาจะรับประทานให้ตัดนำมาตัดแบ่งไป

เพียงเท่านี้เราก็ได้ พายบลูเบอร์รี่ ที่แสนอร่อยไว้รับประทานกันแล้ว ทานกับกาแฟก็อร่อยไม่เบา เพราะว่าเนื้อแป้งจะมีรสเค็ม Cream Cheese มะนาวจะมีรสเปรี้ยว ส่วน Blueberry จะมีรสหวาน ทุกอย่างช่างลงตัวจริง

สูตรอาหารว่าง ขนมหวาน2 ฟักทองแกงบวด

สูตรขนมหวาน : ฟักทองแกงบวด

ส่วนผสม

1. ฟักทอง 50 กรัม
2. น้ำตาล 20 กรัม
3. กะทิ 30 กรัม

วิธีทำ

1. ล้างฟักทอง ปอกเปลือก คว้านไส้และเม็ดออกหั่นเป็นท่อน
2. นำหางกะทิตั้งไฟใส่ฟักทอง ต้มจนสุก ใส่น้ำตาล

สูตรอาหารว่าง : กล้วยแขกทอด

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีสูตรการทำกล้วยแขกทอดตามคำเรียกร้องมาฝากกันครับ

ส่วนผสม

1. กล้วยน้ำว้า 50 ผล
2. แป้งข้าวเจ้า 2 1/4 ถ้วย แป้งสาลี 2 ถ้วย
3. เกลือป่น 3 ช้อนชา
4. ผงฟู 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
6. น้ำปูนใส 2 ถ้วย
7. มะพร้าวขูดขาว 4 ถ้วย
8. งาขาว 1/4 ถ้วย
9. น้ำมันพืช 4 ถ้วย

วิธีทำ

1. ร่อนแป้งทั้งสองชนิด, เกลือ, ผงฟู, และน้ำตาลทราย รวมกัน
2. ใส่น้ำปูนใสทั้งหมดคนเร็ว ๆ ให้เข้ากัน ใส่มะพร้าวขูดและงาขาว
3. ปอกเปลือกกล้วย แล้วผ่าแช่น้ำปูนใส ๑๕ นาที ล้างน้ำสะอาด
4. ใส่น้ำมันในกระทะให้ร้อน
5. ชุบกล้วยลงในแป้ง ทอดให้เหลือง ซับน้ำมันให้แห้ง

เคล็ดลับ

กล้วยแขกที่มีรสชาติอร่อยนั้นนิยมใช้กล้วยน้ำว้าที่ไม่ดิบ หรือสุกจนเกินไป มาฝานตามยาวให้มีความหนาพอประมาณ โดยหนึ่งลูกควรผ่าประมาณ ๔-๕ ชิ้น จากนั้นนำไปชุบแป้งที่ผสมจากแป้งข้าวเจ้า มะพร้าวขูด น้ำตาล เกลือ น้ำปูนใส และงาคั่ว แล้วจึงนำไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ เมื่อสุกเป็นสีเหลืองทองก็นำมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน จึงรับประทานได้ รสชาติของกล้วยแขกจะมีความหวานมันหอม และกรอบแป้งที่หุ้มอยู่ภายนอกของกล้วย ส่วนภายในก็จะนุ่มเนื้อกล้วย ยิ่งถ้าคัดสรรที่สุกกำลังดี และผ่านขนาดที่เราเรียกว่า พอดี คือไม่บางหรือหนาจนเกินไปมาทอดก็จะยิ่งทวีความอร่อย

วิธีทำกล้วยตาก

สวัสดี ครับเพื่อนๆ ใครเคยเจอปัญหาที่บางครั้งกล้วยน้ำว้าสุกพร้อมๆ กันแล้วทานไม่ทันมั๊ยครับ วันนี้ผมมีวิธีการถนอมอาหารด้วยการนำไปทำกล้วยตาก มาฝากกันครับ

ส่วนผสม นำกล้วยน้ำว้างอมๆ ที่เหลือรับประทานประมาณ 1 กิโลกรัม เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ ผสมเกลือกับน้ำเปล่า ปอกกล้วยแช่ในน้ำเกลือประมาณครึ่งชั่วโมง นำไปเรียงผึ่งแดด 2 วัน แล้วทับให้แบนทุกลูก เก็บใส่ขวดโหลไว้ รับประทานได้นานวันครับ

สูตรขนมหวาน : เยลลี่ส้ม

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีสูตรขนมหวานมาฝากกันครับ

ช่วงนี้ได้ส้มมาเยอะเกินจนกินไม่ทัน ครั้นจะทำเป็นน้ำส้มคั้นไว้ดื่มแก้กระหายก็เริ่มเบื่อ เลยขอดัดแปลงเอามาทำเป็นขนมไว้กินเล่นในวันพักผ่อน

เยลลี่ส้ม ขนมแสนอร่อยที่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน แถมยังมีวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างวิตามินซีอีกด้วย วิธีทำก็แสนจะง่ายดาย มีแค่น้ำส้มคั้น เจลาตินและเกลือ เพียงเท่านี้ก็ได้กินขนมอร่อยๆกันแล้ว

เตรียมส่วนผสมพร้อมแล้วก็ลงมือทำกันได้เลย

ส่วนผสม

1. น้ำส้มคั้น 1 1/2 ถ้วย
2. เจลาติน 1/2 ช้อนชา
3. น้ำตาลทรายไม่ขัดขาว 2 ช้อนชา
4. เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

1. เคี่ยวเจลาตินกับน้ำส้มครึ่งถ้วย จนเดือด ดับไฟ 2. เติมน้ำส้มที่เหลือจนหมด คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้อุ่น 3. เทใส่พิมพ์ ตกแต่งด้วยส้มฝาน นำไปเข้าตู้เย็น แช่ทิ้งไว้จนแข็งตัว

Tip

* ถ้าน้ำส้มคั้นมีรสหวานอยู่แล้ว ไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายลงไป * ถ้าน้ำส้มคั้นมีรสชาติเปรี้ยวให้ตัดความเปรี้ยวด้วยเกลือ * จะใช้น้ำผลไม้ชนิดอื่นหรือน้ำเต้าหู้ก็อร่อยเหมือนกัน

สูตรขนม : ขนมชั้น

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีสูตรขนมชั้นมาฝากกันครับ บทความก่อนๆ ผมเคยนำเสนอเคล็ดลับการทำแป้งขนมชั้นให้อร่อย ลองไปดูได้ที่บทความ ทำแป้งขนมชั้น ครับ

ส่วนผสม

1. แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ 2. แป้งท้าวยายม่อม 1 ถ้วย 3. แป้งมัน 2 ถ้วย 4. แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ 5. หัวกะทิ 4 ถ้วย 6. น้ำตาลทราย 3 ถ้วย 7. น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย 8. สีผสมอาหารตามชอบ 9. พิมพ์สำเร็จรูป

วิธีทำ

1. เริ่มทำน้ำเชื่อมก่อนเป็นอันดับแรก โดยนำน้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย ผสมกับน้ำตาลทราย 3 ถ้วย คนให้น้ำตาลละลาย 2. ผสมแป้งถั่วเขียว แป้งท้าวยายม่อม แป้งมัน แป้งข้าวเจ้า เข้าด้วยกัน จากนั้นค่อยๆ เติมน้ำกะทิลงไปทีละนิด นวดไปเรื่อยๆ (เติมไปนวดไป) จนกะทิหมด จากนั้นเติมน้ำเชื่อมลงไปคนให้เข้ากัน 3. แบ่งส่วนผสมออกมาทีละส่วนซึ่งแต่ละครั้งควรตวงให้ได้ในปริมาณที่เท่ากัน เพื่อให้ชั้นของขนมมีความเสมอกัน นำมาผสมสีผสมอาหารที่เตรียมไว้ ทั้งนี้ควรผสมให้มีทั้งสีเข้มและสีอ่อน 4. เทแป้งที่ผสมสีเรียบร้อยแล้วใส่พิมพ์ทีละชั้น สลับสีกันไป หรือจะไล่ระดับสีเข้ม สีอ่อนก็ได้ 5. นำพิมพ์ที่เตรียมไว้ไปตั้งในลังถึง เมื่อพิมพ์เริ่มร้อน ค่อยๆเทแป้งที่เตรียมไว้สำหรับชั้นแรกลงไป รอประมาณ 5 นาที หรือกว่าชั้นแรกจะสุก ก่อนจะเทชั้นต่อไปจนครบทั้ง 9 ชั้น ขอเตือน อย่าใจร้อนเด็ดขาด เพราะหากเทชั้นต่อไปในขณะที่ชั้นก่อนหน้ายังไม่สุก อาจทำให้ชั้นของขนมรวมเข้ากันเป็นชั้นเดียวก็ได้ เมื่อสุกแล้ว ยกลง รอให้เย็น จึงแกะออกจากพิมพ์

สำหรับใครที่มีเวลาในการประดิดประดอย มากหน่อย ลองทำใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมขนาดกลางดู เมื่อสุกแล้วตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ ลอกออกมาทีละชั้น ก่อนพับให้เป็นรูปดอกกุหลาบ มอบเป็นของฝากให้คนที่รัก

สูตรของหวาน : ไอศครีมทอด

ส่วนประกอบ 1. ไอศครีมรสที่ชอบ (จะให้อร่อยต้องเป็นไอศครีมที่มีรสหวานและมัน ไม่แนะนำเชอร์เบท หรือ หวานเย็น) 2. ขนมปังแซนวิชใหม่ๆ 1 นาที ต่อ 2 แผ่น 3. ผงขนมปังป่น 4. ไข่ไก่ 2 ฟอง 5. น้ำมันพืชสำหรับทอด

เคล็ดลับ กระทะที่ใช้ทอดไอศครีมควรเป็นกระทะก้นมัน และไอศครีมควรแช่ในช่องแข็งให้เย็นจัด แต่ต้องไม่แข็งเกินไปจนตักไม่ได้

วิธีทำ 1. เริ่ม จากการทำขนมปังป่นก่อน ง่ายๆ ค่ะ นำขนมปังแซนด์วิชมาตากแดดจนแห้งกรอบ หรือจะใช้อบในเตาด้วยไฟอ่อนจนกรอบ จากนั้นนำไปป่นให้ละเอียด 2. คราวนี้ก็ถึงขั้นตอนการทำแล้วค่ะ เริ่มจากเตรียมขนมปังป่นใส่ถ้วย นำขนมปังแซนด์วิชมาตัดขอบสีน้ำตาลออก ตีไข่ไก่ในถ้วยอีกใบให้พอเข้ากัน 3. ตั้งกระทะบนเตาด้วยไฟกลาง ตั้งน้ำมันให้ร้อน นำไอศครีมออกจากช่องแช่แข็ง ตักไอศครีม 1 ก้อนวางลงบนขนมปัง ทาไข่รอบๆ 4. เอา ขนมปังอีกแผ่นหนึ่งประกบ แล้วปั้นให้เป็นรูปกลมๆ ชุบลงในไข่ แล้วคลุกกับขนมปังป่น ใช้อุ้งมือบีบให้เป็นก้อน แล้วชุบไข่ และคลุกกับขนมปังป่นอีกครั้ง 5. นำลงทอดทันที พอผิวขนมปังเป็นสีเหลืองอ่อนๆ ให้ใช้กระชอนตักขึ้นทันที (ไม่ควรทอดเกิน 30 วินาที) 6. วางลงบนกระดาษซับมัน ตักใช่จานหรือถ้วยเสิร์ฟ แต่งหน้าด้วยฮอทฟัดจ์ หรือวิปปิ้งครีม จะใส่ผลไม้สดแบบเชอรี่ หรือสตอเบอรี่ก็ได้

สูตรของหวาน : ฟักทองต้มน้ำผึ้ง

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เรามาทำฟักทองต้มน้ำผึ้งกันนะครับ ได้สรรพคุณ ช่วยแก้อาการหอบหืด ทำให้ผิวพรรณสดใส

ส่วนผสม

1. ฟักทองหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย
2. น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำขิงคั้นสด 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. ต้มฟักทองจนสุกโดยใส่น้ำพอประมาณ เติมน้ำผึ้ง ต้มต่อจนฟักทองเปื่อย
2. เติมน้ำขิงลงไป ต้มต่ออีก 3 นาที ยกลง พร้อมเสิร์ฟ

สูตรอาหาร : นมข้นหวาน

สวัสดี ครับเพื่อนๆ วันนี้ผมหาสูตรนมข้นหวานมาให้ตามคำขอแล้วนะครับ สูตรนี้เป็นสูตรของคุณแตง ณ ครัวไกลบ้าน ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ หากเพื่อนๆ อยากได้สูตรอาหารอื่นๆ หรือมีข้อแนะนำ คำติชมใดๆ ก็สามารถไปโพสไว้ที่เว็บบอร์ดได้เลยนะครับ สำหรับวันนี้ลองไปทำนมข้นหวานกันดูเลยครับ

ส่วนผสม

1. นมสด 1/3 ถ้วยตวง
2. เนยสด 1 -1 1/2 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วยตวง
4. น้ำมะนาว 1 ซีกใหญ่

(เพิ่มเติมข้อมูลหน่อย นมที่ใช้ถ้าต้องการให้หวานมัน ควรใช้นมสดแบบธรรมดา ที่เค้าเรียกว่า whole milk หรืออย่างน้อยก็นมสดแบบ ๒% เพราะมันจะมันกว่าแบบไร้ไขมัน)

วิธีทำ

1. ใส่เนย น้ำตาล และนมในหม้อหระกระทะ ยกตั้งไฟอ่อนๆถึงปานกลาง
2. เคี่ยวจนน้ำตาลละลายและเริ่มข้นใส่น้ำมะนาวลงไป เึีคี่ยวต่อจนข้นได้ที่ข้นพอดีๆ เพราะพอนมเย็นมันจะข้นขึ้นอีกหน่อยปิดไฟได้
3. พักให้เย็นเทใส่ภาชนะที่ต้องการใช้ได้
4. สูตรนี้ทำตอนที่จะกินปาท่องโก๋ถั่วเหลืองผสมงาดำแล้วนมข้นหวานหมด ทำเสร็จแล้วก็ได้ทานสมใจ

สูตรของหวาน : เค้กกล้วยหอม

สวัสดีครับ วันนี้เรามาทำเค้กกล้วยหอมกันซะหน่อยนะครับ

ส่วนผสม

1. แป้งเค้ก 400 กรัม
2. ผงฟู 2 ช้อนชา
3. โซดา 1 ช้อนชา
4. เกลือ 1 ช้อนชา
5. เนยสด 1 ถ้วย
6. เนยขาว 1/3 ถ้วย
7. น้ำตาลทรายแดงละเอียด 2 ถ้วย
8. ไข่ไก่ 4 ฟอง
9. วานิลา 2 ช้อนชา
10. นมสด 1/2 ถ้วย
11. กล้วยหอมสุกบด 1 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1. ร่อนแป้ง ผงฟู โซดา เกลือ รวมกัน พักไว้
2. ผสมเนยสดกับเนยขาวเข้าด้วยกัน
3. ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปตีกับเนยผสม จนขึ้นฟู
4. ใส่ไข่ไก่ น้ำหอม วานิลา กล้วยหอม ลงไปตีจนเนื้อเนียน
5. ใส่แป้งที่ร่อนไว้ สลับกับนมสด ลงไปผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
6. ตักใส่พิมพ์ที่ทาเนยขาว และโรยแป้งไว้แล้ว
7. นำเข้าอบอุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์

สูตรขนมหวาน : สาคูเปียกเม็ดบัว

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้เรามาทำขนมหวานแบบไทยๆ กันดีกว่าครับ

ส่วนผสม

1. สาคูเม็ดเล็กกลิ่นใบเตย 1 ถ้วย
2. เม็ดบัวต้มสุก 1 ถ้วย (ประมาณ 2 1/2 ขีด)
3. น้ำ 3 1/2–4 ถ้วย
4. ใบเตย 6 ใบ
5. น้ำตาลกรวด 150 กรัม

วิธีทำ

1. ต้มน้ำให้เดือดใส่ใบเตยเทสาคูลงในน้ำนั้นแล้วคนจนเม็ดสาคูค่อนข้างใส
2. ใส่เม็ดบัว และน้ำตาลกรวดลงไปคนจนเข้ากัน
3. ยกลงตักรับประทานได้

สูตรขนมหวาน : ถั่วต้มหลากสี

วันนี้เราลองมาทำขนมหวานที่ทำมาจากถั่วกันนะครับ เนื่องจากถั่วเป็นแหล่งโปรตีนชั้นยอดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพนอกจากจะให้ โปรตีน แล้วก็ยังเป็นแหล่งของ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ไฟเบอร์ วิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งไฟเบอร์ในถั่วยังช่วยดูดจับสารพิษและไขมันส่วนเกินที่กินเข้าไป ถือได้ว่าถั่วเป็นอาหารที่ช่วยลดความอ้วนได้เป็นอย่างดีครับ รู้สรรพคุณมากมายอย่างนี้แล้ว ลองไปทำดูกันเลยครับ

ส่วนผสม

1. ถั่วเขียว 1 ถ้วย
2. ถั่วแดง 1 ถ้วย
3. ถั่วดำ 1 ถ้วย น้ำประมาณ 15 ถ้วย
4. น้ำตาลกรวด หรือ น้ำตาลทราย 2–3 ขีด

วิธีทำ

1. แช่ถั่วในน้ำเดือด จนน้ำที่แช่เย็นสนิท (แยกถั่วแต่ละชนิดแช่ อย่าแช่รวมกัน) ล้างให้สะอาด
2. นำถั่วแต่ละอย่างใส่หม้อ เติมน้ำประมาณ 5 ถ้วย ตั้งไฟต้มพอเดือด หรี่ไฟ ต้มจนถั่วเปื่อยจึงใส่น้ำตาล พอหวาน
3. เวลาเสิร์ฟตักถั่วอย่างละหน่อยใส่ชาม เสิร์ฟร้อนๆ

สูตรเครื่องดื่ม : สตรอเบอรี่สมูทตี้

วันนี้เราลองมาทำเครื่องดื่มยอดฮิตสำหรับสาวๆ ให้คนที่บ้านลองทานกันหน่อยเป็นไงฮะ วิธีทำก็ง่ายมากๆ เลย ลองไปทำกันเลยครับ

ส่วนผสม

1. สตรอเบอรี่แช่แข็ง 2 ถ้วย
2. นมสด 1 ถ้วย
3. โยเกิร์ตรสสตรอเบอรี่ 2/3 ถ้วย

วิธีทำ

1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น
2. ปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
3. เทใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟครับ

สูตรขนม : คุ้กกี้เนย

วันนี้เราลองมาทำคุ้กกี้เนยกันดีกว่าครับ ดีไม่ดีอาจหารายได้เสริมจากคุ้กกี้เนยก็ได้นะครับ

ส่วนผสม

1. เนยสด 1/2 ถ้วย
2. น้ำตาล 1/2 ถ้วย
3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
4. แป้งสาลี 2 ถ้วย
5. ผงฟู 1/2 ช้อนชา
6. เกลือ 1/2 ช้อนชา
7. วานิลา 2 ช้อนชา
8. เชอร์รี่เชื่อมสีเขียว – แดง หั่นชิ้นเล็ก

วิธีทำ

1. ใส่เนย น้ำตาล ลงในอ่างผสม ตีให้ขึ้น
2. ตอกไข่ใส่ลงไป ตีจนเข้ากันดี
3. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ ผสมกัน ใส่ลงในเนยที่ตีแล้วจนเข้ากันดี
4. ใส่วานิลาลงไปผสม ตักใส่กรวยมีหัวบีบเป็นรูปต่างๆ ลงในถาดที่ทาคริสโก้เพื่อกันติดพิมพ์
5. วางชิ้นเชอร์รี่เชื่อมประดับหน้าพองาม
6. นำเข้าเตาอบด้วยไฟ 250 องศาเซลเซียส นาน 25 นาที

สูตรอาหาร : กล้วยหอมทอด

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีสูตรอาหารว่าง ไว้ทานเล่น หรือสำหรับรับรองแขกเวลามาเที่ยวที่บ้านก็ไม่ว่ากันครับ นั่นก็คือกล้วยหอมทอดรสเด็ด ส่วนผสมและวิธีทำก็ไม่ยุ่งยากครับ ลองไปทำดูเลยครับ

ส่วนผสม

1. กล้วยหอมสุกผ่าครึ่ง 2 ผล
2. แป้งสาลี 1 ถ้วย
3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
4. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันสลัด 3 ช้อนโต๊ะ
6. ผงฟู 1 ช้อนชา
7. น้ำมันพืช 2 ถ้วย
8. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

1. ตอกไข่ใส่ชามผสมก้นลึก ตามด้วยน้ำตาลทราย น้ำมันสลัด ผงฟู
2. ตีส่วนผสมให้ละลายเข้ากัน ใส่แป้งสาลีลงไป
3. ค่อยๆ เทน้ำเปล่าลงไป ตีแป้งให้ละลายกับน้ำ ระวังอย่าให้แป้งเหลวจนเกินไป
4. นำกล้วยหอมลงชุบกับแป้ง ทอดในน้ำมันร้อนๆ พอสุกเหลือง
5. ตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมน้ำตาลไอซิ่ง หรือ น้ำผึ้งและมะนาว

สูตรขนมหวาน : บัวลอยใบเตยมะพร้าวอ่อน

เมื่อวานเพื่อนคุณแม่เอาใบเตยมาฝากหอบใหญ่ ในบ้านมีแป้งข้าวเหนียวและมะพร้าวอ่อน

ก็เลยคิดจะทำขนมหวานดีกว่าง่ายดีด้วย ของครบแล้วก็ลุยเลย แถมมีแรงงานเด็กช่วยกันปั้นอีกต่างหาก

อากาศก็ดี แดดล่มลมตก…ช้าอยู่ทำไม ไปเข้าครัวกันดีกว่าเรา

ขนมบัวลอยเป็นขนมไทยที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว เป็นการใช้เวลาว่างในวันหยุดให้คนในครอบครัว

ได้ช่วยกันทำด้วย แป้งบัวลอยสามารถทำได้อีกหลายสีเช่น สีเหลืองจากฟักทอง,สีขาวปนเทาจากเผือก,สีส้มจากแครอท

สีม่วงจากดอกอัญชัญ สามารถใส่แห้ว,เม็ดบัว,หรือยัดไส้บัวลอยด้วยฟักเชื่อมหั่นลูกเต๋าเล็กๆได้อีกด้วย

ส่วนผสม

1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
2. น้ำใบเตยคั้น 1/2 ถ้วย
3. กะทิสด 3 ถ้วย
4. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
5. เกลือ 1 ช้อนชา
6. มะพร้าวอ่อนหรือมะพร้าวเผา *กดด้วยพิมพ์วุ้นเป็นรูปต่างๆ

วิธีทำ

1. ผสมแป้งข้าวเหนียวกับน้ำใบเตย นวดจนแป้งนุ่มปั้นได้ถ้าแป้งเหลวเพิ่มแป้ง
2. ถ้าแห้งไปใส่น้ำใบเตยเพิ่ม ปั้นเป็นก้อนเล็กกลมให้พอปั้นได้
3. ผสมกะทิ น้ำตาล เกลือ และใบเตย ตั้งไฟค่อนข้างอ่อนคนไปเรื่อยๆอย่าให้แตกมัน
4. ตั้งน้ำให้เดือด ใส่แป้งที่ปั้นไว้ให้สุก ถ้าแป้งสุกแป้งจะลอยขึ้นมา ช้อนใส่แช่ในน้ำเย็นให้แป้งรัดตัว ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
5. ใส่มะพร้าวอ่อนและแป้งบัวลอยลงในน้ำกะทิ

กว่าจะมาเป็นแบบนี้

(เบื้องหลัง)

ขอบคุณบทความจาก : คุณวิมล ขนานชี