สูตรอาหาร : ปลาจะละเม็ดขาวนึ่งขิง
ปลา จะละเม็ดนึ่งขิง ชื่อเมนูนี้เล่นเอาผมน้ำลายสอไปเลยทีเดียว เพราะกลินหอมของขิง กับความนุ่มของเนื้อปลาทำให้อดใจไว้ไม่อยู่ ที่สำคัญคุณประโยชน์ของขิงซึ่งเป็นสมุนไพรชั้นดีที่นิยมนำมาปรุงอาหารจะช่วย ให้เรามีสุขภาพที่สมบูรณ์ไม่เจ็บไข้ได้อีกด้วย
ส่วนผสม
- ปลาจะละเม็ดขาวขนาดกลาง 1 ตัว
- ขิงหั่นฝอย 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอยทั้งต้น 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทรายขาว 1 ช้อนชา
- น้ำมันงา 1 ช้อนชา
- น้ำมันถั่วลิสงสำหรับเจียว
- ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- ล้างปลาจะละเม็ดขาวให้สะอาด ควักไส้ออก ซับน้ำให้แห้ง
- ใช้น้ำคั้นจากขิงสดทาให้ทั่วปลาเพื่อขจัดกลิ่นคาว
- คลุกเคล้าปลาด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และน้ำมันงาที่เตรียมไว้
- วางลงในจานสำหรับนิ่ง โรยหน้าด้วยขิงซอยแล้วนำไปนึ่งประมาณ 10 นาที
- ยกลงเพื่อรินน้ำจากตัวปลาทิ้ง
- เจียวน้ำมันถั่วลิสงจนเดือด แล้วเทราดลงบนตัวปลา
- เติมซีอิ๊วดำ โรยต้นหอม ตักเสิร์ฟ
บทความจาก : หนังสือมหัศจรรย์สมุนไพรจีน
สูตรอาหาร : ขนมกุยช่ายทอด
กุยช่าย ทอด ชื่อนี้คิดว่าคงไม่มีใครไม่เคยได้ยิน เพราะเจ้ากุยช่ายทอดถือได้ว่าเป็นอาหารว่างที่แสนอร่อย ยิ่งได้จิ้มกับซีอิ้วดำด้วยแล้ว ยิ่งทำให้กุยช่ายทอดอร่อยขึ้นอีกร้อยเท่า ผมจึงอดไม่ได้ที่จะนำวิธีทำกุยช่ายทอดมาให้ท่านได้ลองไปทำทานกันดู
ส่วนผสม
- ใบกุยช่ายหั่นยาวประมาณ 1 เซนติเมตร 1 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งมัน 1/4 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
วิธีทำ
- ผสมใบกุยช่าย แป้งข้าวเจ้า แป้งมัน เกลือป่นและน้ำให้เข้ากัน นวดให้แป้งเนื้อเนียน ตัดแป้งให้ได้ขนาด 2 นิ้ว
- นึ่งถาดให้ร้อนจัด นำขนมกุยช่ายใส่ถาด แล้วนึ่งให้แป้งสุก ยกลงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
- ถ้าจะกินให้นำขนมกุยช่ายทอดในน้ำมันให้สุกเหลืองทั้ง 2 ด้าน กินคู่กับน้ำจิ้ม
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
- ซีอิ้วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้ว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกชี้ฟ้าแดงโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำส่วนผสมทุกอย่างผสมรวมกัน ตั้งไฟพอน้ำตาลละลาย กินคู่กับกุยช่ายทอด
บทความจาก : หนังสืออาหารว่างจีน
สูตรอาหาร : บะหมี่สอดไส้
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมมีสูตรอาหารว่างจีนมาฝากกันครับ หากมีเวลาว่างๆ ก็ลองทำกินกันดูนะครับ
ส่วนผสม
- กุ้งสับละเอียด 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
- เหล้าจีน 1/2 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- บะหมี่ 3 ก้อน
วิธีทำ
- นำกุ้งผสมกับเครื่องปรุงรสผสมให้เข้ากัน นวดให้เหนียว ปั้นเป็นก้อนกลม
- นำบะหมี่ม้วนเป็นก้อนพอคำ นำกุ้งที่ปั้นไว้วางบนบะหมี่ แล้วนำใส่เข่งนึ่งประมาณ 10 นาที
บทความจาก : หนังสืออาหารว่างจีน
สูตรอาหาร : กระเพาะปลารสเด็ด
วันนี้ ผมได้ไปหาสูตรกระเพาะปลามาฝาก ปรกติแม่ผมก็ทำให้ทานเป็นประจำ รสชาตินี่อร่อยอย่าบอกใครเลย ใครชอบอะไรมาก็ลองดัดแปลงดูนะครับ ลองมาดูส่วนผสม และขั้นตอนการทำกัน
ส่วนผสม
1. กระเพาะปลาแห้งที่ผ่านการทอดแล้วประมาณ 100 กรัม
2. เนื้อไก่ ประมาณ 200 กรัม
3. เลือกไก่ 1 ก้อน
4. เห็ดหอม 5 ดอก
5. หน่อไม้ไผ่ตรง 300 กรัม
6. ซีอิ้วขาว 1/2 ถ้วยตวง
7. ซีอิ้วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
8. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
9. แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง
10. น้ำซุปกระดูกไก่ 10 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. นำน้ำซุปใส่หม้อตั้งไหให้เดือด ใส่กระเพาะปลาต้มให้นุ่ม ใส่หน่อไม้ เห็ดหอม เลือดไก่
ไข่นกกระทาต้มปอกเปลือก
2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ พริกไทย
3. ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำ แล้วนำมาผสมลงในหม้อ รีบคนให้ทั่ว รอให้เดือดอีกครั้ง ยกลง
ตักใส่ชามโรยต้นหอมผักชี พริกไทย พริกดองน้ำส้ม
บทความจาก : McDang.com
สูตรอาหาร : ขนมเทียนสูตรเด็ด
เมื่อวานนำเสนอพี่ขนมเข่งไปแล้ว ถ้าวันนี้ไม่สนองต่อด้วยน้องขนมเทียน น้องเค้าคงน้อยใจแย่ เราลองไปทำดูกันเลยครับ
ส่วนผสมไส้
- น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
- หอมเจียว ? ถ้วย หรือกระเทียม พริกไทย
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย ? ถุง
- น้ำตาลปีบ 3 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย 2 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำถั่วทองไปแช่น้ำไว้ 3 ชั่วโมง
- นำถั่ว 1 ถ้วยไปนึ่งให้สุก
- ตำถั่วให้ละเอียด
- ตั้งกะทะเจียวกระเทียมพอเหลือง
- ใส่ถั่วทองในกะทะ ใส่น้ำตาล เกลือ พริกไทย ชิมรสตามชอบผัดไปจนแห้ง
- นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่
ส่วนผสมแป้ง
- แป้งอเนกประสงค์ (แป้งข้าวเหนียว) 500 กรัม (ถ้าจะทำขนมเข่งสีดำ ใช้แป้งข้าวเหนียวดำ 1 ? ถ้วย ผสมแป้งข้าวเหนียวขาว 3 ? ถ้วย)
- น้ำกระทิ 3 ถ้วย
- น้ำตาลปีบ 1 ถ้วย
วิธีทำ
- เทแป้งใส่ชาม ค่อยๆ บี้น้ำตาลผสมไปกับแป้ง
- ค่อยๆ เทกระทิใส่แล้วนวดให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง
- เอากระทงใบตองแห้งทาน้ำมันให้ทั่ว
- เรียงกระทงในลังถึง หรือถาด หยอดน้ำแป้งที่ผสมไว้ก้นกระทงเล็กน้อย
- วางไส้ถั่วลงกลางกระทง
- หยอดแป้งให้ท่วมไส้ถั่วจนเกือบเต็มกระทง
- นำไปนึ่งในลังถึงที่ตั้งจนน้ำเดือดแล้ว ประมาณ 30 นาที
เห็นกรรมวิธีการทำแล้วต้องขอบอกเลยว่า ถ้าคนทำไม่มีความรักความอดทนใส่ลงไปด้วย คงไม่มีวันได้ทานขนมอร่อยๆ อย่างแน่นอน ที่บอกอย่างนี้ก็เพราะว่า ต้องใช้เวลากับการทำขนมกันเป็นวันๆ ทีเดียวกว่าจะได้มาแจกจ่ายไหว้เจ้า ให้เรารับประทานกันเป็นกระจาดๆ อย่างที่เห็น ทำเสร็จแล้ว ถ้ายังมีเหลือเก็บข้ามวันข้ามคืน ก็อย่าเอาขนมใส่ในที่อับๆ เชียวค่ะ ให้เรียงในกระจาดหรือถาดแล้วหาตาข่ายมาคลุมไว้ มิเช่นนั้นทิ้งไว้ไม่ทาน ขนมจะเป็นราได้ เสียดายแย่เลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น